ควันจากรถยนต์หรือมลภาวะทางอากาศ รวมถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายของเราอย่างมาก แต่ว่าร่างกายของเรานั้นมีระบบที่จะคอยช่วยจัดการกับสิ่งรอบตัวที่อันตรายเหล่านี้ นั่นคือ “ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune system)” นั่นเอง ควรทำอย่างไรเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงพร้อมที่จะปกป้องเราจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ระบบภูมิคุ้มกัน คือ ระบบที่จะช่วยทำหน้าที่ป้องกันและกำจัดอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสารพิษ ที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและระบบต่าง ๆ อีกทั้งยังมีหน้าที่ตรวจสอบและตอบสนองต่อการติดเชื้อเพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ
แต่ระบบภูมิคุ้มกันของเราก็มีบางครั้งที่ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะต่อต้านกับสิ่งแปลกปลอม และเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติหรือภูมิคุ้มกันต่ำลง ร่างกายของเราก็จะมีการแสดงอาการต่าง ๆ เพื่อเป็นการแสดงให้เรารู้ว่าภูมิคุ้มกันตก ซึ่งเราสามารถเช็คอาการต่าง ๆ ได้ ดังนี้
- ป่วยบ่อยและป่วยนาน
- มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
- มีภาวะเครียดสูงและเรื้อรัง
ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าเมื่อไหร่ที่ภูมิคุ้มกันของเราเริ่มตกลง ทำให้เราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมกับการดูแลสุขภาพเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเหมือนเดิม แต่เราจะสามารถเพิ่มความแข็งแรงขอระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างไรกัน
วิธีเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน
- วิตามินดี (vitamin D) วิตามินที่ดีและถูกมองข้ามไป มีบทบาทต่อระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันหลาย ๆ กลไกนั้น จะได้รับการกระตุ้นจากวิตามินดี
- วิตามินซี (วิตามินซี) วิตามินยอดฮิตสำหรับคนที่อยากแข็งแรง มีบทบาทในด้านระบบภูมิคุ้มกัน โดยเสริมความแข็งแรงของเยื่อบุผิว ซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันการรุกรานของสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ได้ รวมทั้งกระตุ้นให้ระบบต้านอนุมูลอิสระทำงานได้อย่างปกติ ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมีหน้าที่ทำลายเชื้อโรคสามารถทำงานได้อย่างปกติ
- เลือกทานอาหารที่มีวิตามินซี
- แหล่งอาหารหลักของวิตามินซีคือ ผักหรือผลไม้สด เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี่ มะละกอ บรอคโคลี่ ซึ่งโดยปกติคำแนะนำให้บริโภคผลไม้ประมาณ ครั้งละ 1 กำปั้นมือ วันละ 2-4 ครั้ง ก็จะได้รับวิตามินซีเพียงพอแล้ว เช่น ส้มเขียวหวาน 2 ลูก จะให้วิตามินซีประมาณ 130 มิลลิกรัม กีวีเพียง 1 ลูก ก็จะให้วิตามินซีถึง 70 มิลลิกรัม หรือ เลมอน 1 ลูก จะให้วิตามินซีประมาณ 83.2 มิลลิกรัม เลยทีเดียว โดยวัยทำงานต้องการวิตามินซีประมาณ 85 – 100 mg ต่อวัน
- ผักที่ผ่านความร้อนเพื่อปรุงนั้นจะมีวิตามินซีลดลง เพราะวิตามินซีจะสลายตัวได้ค่อนข้างง่ายจากการสัมผัสกับแสงแดดหรือโดนความร้อนในการปรุงอาหาร
- วิตามินซีอาจได้รับจากการบริโภคอาหารที่มีการเสริมวิตามิน เช่น น้ำผลไม้ที่มีการเสริมวิตามินซี หรือสามารถเลือกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบ
- ธาตุเหล็ก เสริมภูมิต้านทาน ทำงานร่วมกับวิตามินซี ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่มีบทบาทในกระบวนการต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย ทำให้ผิวหนังและชั้นเนื้อเยื่อต่าง ๆ มีความแข็งแรง รวมทั้งทำให้การสร้างเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเป็นไปอย่างปกติ ผลกระทบจากการขาดเหล็กค่อนข้างมาก คือ กลุ่มสตรีมีครรภ์ ให้นมบุตร รวมถึงทารกและเด็ก เพราะจะมีผลต่อพัฒนาการของเด็ก
มัลเบอร์รี่ (Mulberry) หรือ หม่อน (ภาคอีสานเรียกว่า “มอน”) มีวิตามินซี 36.4 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม ที่รู้จักกันจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ
- หม่อนหรือมัลเบอร์รี่ชนิดที่ปลูกไว้เพื่อรับประทานผลเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีชื่อสามัญว่า Black Mulberry และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus nigra L. จัดอยู่ในวงศ์ MORACEAE ผลสุกจะเป็นสีดำมีรสเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
- หม่อนที่ปลูกไว้เพื่อการเลี้ยงไหมเป็นหลัก มีชื่อสามัญว่า White Mulberry และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus alba L. ชนิดนี้ใบจะมีขนาดใหญ่กว่าและออกใบมากกว่า ใช้เป็นอาหารเลี้ยงไหมได้ดี แต่ผลจะมีขนาดเล็กกว่า เมื่อสุกจะมีรสเปรี้ยว ใช้รับประทานได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าชนิดแรก
ผัก ผลไม้ที่มีสีสันต่าง ๆ ตามธรรมชาติ จัดเป็นกลุ่มที่ถูกจับตามอง และนำมารับประทานเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ หนึ่งในผลไม้กลุ่มสีม่วงแดง ที่มาแรง และราคาก็ไม่แพงนั่นก็คือลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ (Mulberry) ขอนำประโยชน์ดี ๆ ของลูกหม่อน ผลไม้เล็ก ๆ แต่แสนจะมีประโยชน์มาฝาก
หม่อน หรือ มัลเบอร์รีเป็นพืชอาหารตามธรรมชาติชนิดเดียวของหนอนไหม และเป็นหัวใจสำคัญของการประกอบอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อาทิ กรดโฟลิก ซึ่งพบว่า ทารกที่เกิดจากมารดาที่ขาดกรดโฟลิก มีความเสี่ยงที่จะพิการทางสมองและประสาท ไขสันหลัง นอกจากนั้นยังพบสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไชยานิน เควอซิติน ที่มีส่วนลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ตำรับยาโบราณมีการใช้ผลหม่อนต้มบริโภคทั้งเนื้อและน้ำแก้โรคไขข้ออักเสบ ท้องผูก โลหิตจาง และขับเสมหะ มีผลงานวิจัยหลายสถาบันในประเทศไทย มหาวิทยยาลัยทางการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และงานวิจัยหลายประเทศของลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ ดังนี้
ประโยชน์จากลูกหม่อน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ชื่อ Anthyocyanin ในปริมาณมาก เป็นสารสีม่วงแดง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โดยสารชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ต่อต้านอาการขาดเลือดในสมอง ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น
- มีสาร Deoxynojirimycin ที่เป็นตัวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
- มีวิตามินบี 6 มีประโยชน์ในด้านการบำรุงเลือด ตับ ไต ลดการเกิดสิว ลดอาการปวดประจำเดือน
- มีกาบา (GABA) ที่เป็นตัวช่วยลดความโลหิตป้องกันและยับยั้งการเกิดลิ่มเลือด ป้องกันเส้นเลือดแตก สาเหตุของโรคอัมพฤก อัมพาต
- มีสาร Phytosterol ที่ มีวิตามินซี สูง ช่วยป้องกันหวัด โรคภูมิแพ้ โรคปอด วัณโรค ป้องกันเชื้อไวรัส
- ปอด วัณโรค ป้องกันเชื้อไวรัส มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก (ป้องกันแสงสีน้ำเงินเข้าทำลายเลนส์ตา) บำรุงเหงือกและฟัน สร้างภูมิให้ระบบหายใจ บำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบของสิว
- มีสาร Polyphenols ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์กับร่างกาย สามารถช่วยระดับคอเลสเตอรอลได้
- มีกรดโฟลิค หรือวิตามินใบไม้ หรือวิตามินเอ็ม ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันทารกพิการ ช่วยการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หญิงแรกตั้งครรภ์เดือนแรกต้องการกรดโฟลิค
- มัลเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ที่เป็นตัวช่วยป้องกันหวัด ภูมิแพ้ วัณโรค โรคปอด เชื้อไวรัส และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ช่วยแก้อาการเมาค้าง ผ่อนคลายความเครียด ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย
- สารประกอบฟีนอลในมีอยู่ในผลมัลเบอร์รี่ สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านอาการอักเสบ อาการเส้นเลือดโป่งพอง และยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้
- สาร Quercetin และสาร Kaempferol ที่มีอยู่ในผลมัลเบอร์รี่เป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิต ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง เลือดหมุนเวียนดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ป้องกันการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้เล็ก ยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยยืดอายุเม็ดเลือดขาว และลดอาการแพ้ต่าง ๆ[5],[6]
- มัลเบอร์รี่กรดโฟลิกสูง ซึ่งกรดโฟลิกนั้นสามารถช่วยทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญได้เต็มที่ ทำให้เซลล์ประสาทไขสันหลังและเซลล์สมองเจริญเป็นปกติ และช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
นอกจากนี้ลูกมัลเบอร์รี่ยังกรดอะมิโน วิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี ฯลฯ บางรายงานระบุว่ามัลเบอร์รี่สามารถช่วยแก้อาการเมาค้าง และช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
ผลมัลเบอร์รี่สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น แยมหม่อน เยลลี่หม่อน ขนมพาย ข้าวเกรียบ ไอศกรีมหม่อน หม่อนแช่อิ่ม หม่อนอบแห้ง ลูกอมหม่อน น้ำหม่อน ไวน์หม่อน เป็นต้น
ปัจจุบันจึงมีการนำลูกหม่อน มาทำอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เพราะรสชาติ สีสัน และคุณค่าทางอาหาร ไม่ด้อยไปกว่าผลบลูเบอรี่ ผลราสพ์เบอรี่ และแบล็คเบอรี่ ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูงมาก ดังนั้น อาหารที่ใช้ผลไม้ดังกล่าวเป็นส่วนผสม จึงสามารถใช้ผลหม่อนทดแทนได้ทั้งหมด เช่น เค้ก โดนัท พาย และไอศกรีม ฯลฯ โดยการนำผลหม่อนมาใช้นั้น ผลหม่อนห่าม จะมีสีแดง ให้รสเปรี้ยว ผลหม่อนสุก จะมีสีม่วงดำ ให้รสหวานจัด ซึ่งเลือกใช้เป็นส่วนผสมตามความชอบ โดยรวม ๆ สารต้านอนุมูลอิสระ อันหลากหลายในเบอร์รี่จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการทำงาน และลดการอักเสบของหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคทางระบบประสาทและสมองอีกด้วย ผู้ผลิตบางรายก็นำลูกหม่อนมาแปรรูปเป็นน้ำลูกหม่อน หรือ น้ำมัลเบอร์รี่ ทั้งแบบธรรมดา และเข้มข้น ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ง่ายและสะดวก สำหรับผู้บริโภคที่สนใจเลือกทาน และได้รับประโยชน์จากผลไม้ที่จิ๋วแต่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ชนิดนี้
เอวี่ฟาร์ม นำเสนอเทรนด์รักสุขภาพ ที่แสนสำคัญและมาแรงที่สุดในปี 2022 นี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนมากขึ้น หรือการแพร่ระบาดของโรคร้ายที่นับวันยิ่งรับมือยากขึ้นทุกที หลาย ๆ คนจึงเริ่มจะหันมามองมาการดูแลสุขภาพของตัวเองให้ครบถ้วนทุกองค์ประกอบของร่างกาย ลูกหม่อน-มัลเบอร์รี่ มาแนะนำ กับ 5 สุดยอดประโยชน์ที่ใครได้ลองแล้วจะต้องหลงรัก
- ลดน้ำตาลในเลือด เสริมกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ประโยชน์ข้อนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนน่าจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารสำหรับในช่วงไดเอทค่ะ เพราะในมัลเบอร์รีอุดมไปด้วยสาร Deoxynojirimycin และ Phytosterol นั่นเอง
- บำรุงสายตา ในมัลเบอร์รี หรือลูกหม่อน จะอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก บำรุงเส้นประสาทตา
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพราะนอกจากวิตามินเอ แล้วในมัลเบอร์รียังมีวิตามินซีด้วย ซึ่งช่วยในเรื่องของโรคภูมิแพ้, วัณโรค รวมทั้งยังสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายด้วย
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ในมัลเบอร์รีจะมีสาร Quercetin และ Kaempferol ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่จะเข้าไปป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ลดความเสี่ยงขงการเกิดโรคหัวใจ ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากโรคความดันโลหิตได้
- ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส โดยใน มัลเบอร์รี นี้มีสารประกอบฟีนอล ที่จะช่วยต้านการอักเสบได้ มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้
Mulberry (มัลเบอร์รี่) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกหม่อน เป็นไม้ยืนต้นตระกูลเบอรรี่ เช่นเดียวกับบลูเบอรรี่ และราสเบอรี่ เมื่อดิบจะมีสีเขียว ห่ามจะมีสีแดงให้รสเปรี้ยว ส่วน ผลสุกจะมีสีม่วงดำให้รสหวานจัด อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชื่อ Anthocyanin เป็นสารสีม่วงแดง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และ Resveratrol สูงกว่า Superfruits ชนิดอื่น ถึง 79% ช่วยชะลอความแก่ ลดริ้วรอย เป็นพืชพื้นเมืองที่พบได้ในประเทศจีน เกือบทุกส่วนของพืชชนิดนี้อุดมด้วยประโยชน์
ขั้นตอนการทำ มัลเบอร์รี่ผง
- นำผลมัลเบอร์รี่ เก็บสดจากต้นแล้วมาคัดเลือกเฉพาะพวกที่สมบูรณ์
- ตัดขั้ว ล้างน้ำ ผึ่งในร่มจนแห้ง
- นำเข้าโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ 6 วัน เพื่อให้แห้งสนิท
- บดด้วยเครื่องบดสมุนไพร
- นำเข้าโรงอบอีก 2 วัน
- บรรจุในถุงพลาสติก
เอวี่ฟาร์มใส่ใจทุกรายละเอียดในการผลิต มัลเบอร์รี่ผง คงความเป็นมัลเบอรี่สดอย่างครบถ้วนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
ผงมัลเบอรี่ สามารถทำเป็นเครื่องดื่มและอาหารได้ ทำของหวาน เช่น โรยหน้าเค้ก ไอซ์ครีม ผสมแป้งทำขนม ผสมน้ำเชื่อมผลไม้ได้ทุกชนิด คลุกข้าวเหนียวทำข้าวแตน หรือทำอาหารคาว เช่น ผสมเส้นก๊วยเตี๋ยว ผัดผัก แกงจืด แกงป่า ใส่ในกับข้าวแทนผงชูรส เพิ่มรสชาติสีสันและคุณค่าทางอาหาร ไม่ด้อยไปกว่า ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูงมาก
ดังนั้น อาหารหวานที่ใช้ผลไม้เป็นส่วนผสมจึงสามารถใช้ผลหม่อนทดแทนได้ทั้งหมด เช่น เค้ก โดนัท พาย และไอศกรีม และอาหารคาวที่ต้องใช้น้ำตาลตัด ก็สามารถใช้ผงมัลเบอรี่แทนได้เช่นกัน
ไปที่ร้านค้า -> เอวี่ฟาร์ม
สำหรับท่านที่สนใจ มัลเบอร์รี่ผง ติดต่อได้ที่
เอวี่ฟาร์ม
143 หมู่ 10 ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
กัญญาวีร์ ลาล้ำ
โทร. 098 586 8674
Face book : เอวี่ฟาร์ม ฟาร์มดีเพื่อสุขภาพ
ID Line : avyfarm
Link line : https://line.me/ti/p/bif3BjcTau
KCmart ยังมีสินค้าให้เลือกอีกมาก คลิกที่นี่ ได้เลยค่ะ
KCmart Online Team
ผลิตภัณฑ์จากชุมชน และผู้ผลิตในท้องถิ่น รวมตัวกันในนาม โคราช ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย (Korat Organic Claster) จำหน่ายสินค้าตรงสู่ผู้บริโภค