เทรนด์คนรักสุขภาพ สูตรเด็ด เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง ทอด กรอบ

เมนูเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองทอดกรอบ ได้รับความนิยมมากขึ้นตาม เทรนด์คนรักสุขภาพ นอกจากจะมีรสชาติอร่อย ยังนิยมนำมาใช้เป็นอาหารขบเคี้ยวยามว่าง

เทรนด์คนรักสุขภาพ

เห็ด (mushroom) คือชีวอินทรีย์ (living organism) จัดอยู่ในอาณาจักรฟันไจ (fungi kingdom) มีหลากหลายรูปพรรณสัณฐาน  คำว่า ‘เห็ด’ หรือ ‘ดอกเห็ด’ คือส่วนโครงสร้างสืบพันธุ์ของฟันไจใหญ่ ประกอบด้วย ก้าน (stipe) และ หมวก (pileus) ใต้หมวกอาจเป็น ครีบ (lamella) หรือเป็นท่อ (tube) อันเป็นที่เกิด ‘สปอร์ (spore)’ ปัจจุบันได้มีการจำแนกเห็ดไว้หลากหลายชนิดซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นเห็ดที่กินได้ และเห็ดที่กินไม่ได้หรือเห็ดพิษซึ่งรับประทานเข้าไปแล้วก่อให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ เช่นประสาทหลอน หรือมีพิษต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายจนถึงเสียชีวิต ตัวอย่างของเห็ดที่กินได้ ที่เป็น เทรนด์คนรักสุขภาพ ต้องหันมามองได้แก่ เห็ดโคน เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดนางรม เห็ดหูหนู เห็ดฟาง เห็ดเผาะ เห็ดแชมปิญอง เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เป็นต้น

เห็ด ในทางจุลชีววิทยาถูกจัดเป็นเชื้อราชั้นสูงประเภท fungi ที่สามารถพัฒนาเป็นดอกหรือเป็นกลุ่มก้อนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อย่างไรก็ตามในทางการเกษตรเห็ดอาจถูกจัดเป็นพืชชั้นต่ำที่ไม่มีคลอโรฟีลล์ จึงไม่สามารถสังเคราะห์แสงแดดเพื่อสร้างอาหารเองได้ ต้องอาศัยการย่อยสลายสารอินทรีย์จากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในการเจริญ เติบโต เห็ดถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารมาช้านาน

ด้วยความมหัศจรรย์ของเห็ด ตลอดช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีการวิจัยถึงประสิทธิภาพของเห็ดทางการแพทย์อย่างคึกคักทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศยักษ์ใหญ่ของเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, จีน และเกาหลีใต้ ส่งผลให้เห็ดทางการแพทย์ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เพื่อป้องกันและรักษาโรคตามแนวทางการแพทย์ทางเลือกมากขึ้น มีรายงานทางวิชาการมากมาย รวมทั้งวารสารเห็ดทางการแพทย์นานาชาติ ยืนยันว่าเห็ดทางการแพทย์มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว โดยการปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ เพื่อต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง

เห็ดนิยมนำมาใช้เป็นอาหารเนื่องจากมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดี มีความคล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์เนื่องจากเห็ดมีกรดอะมิโนกลูตามิคที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับรส สามารถหาซื้อได้ง่าย อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีประโยชน์ที่หลากหลาย

เทรนด์คนรักสุขภาพ

คุณประโยชน์ของเห็ดได้แก่

  1. เป็นแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติที่มีแคลอรี่ต่ำ มีไขมันต่ำและน้ำตาลค่อนข้างน้อย มีแร่ธาตุและวิตามินกว่า 15 ชนิด ได้แก่ โฟเลต ซิลิเนียม สังกะสี ทองแดง แมกนีเซียม โพแทสเซียม วิตามินบีรวม และวิตามินดี เห็ดต่างสายพันธุ์อาจให้สารอาหารแต่ละชนิดที่แตกต่างกัน เห็ดนางรมและเห็ดหอมจะอุดมไปด้วยใยอาหาร โดยพบว่าเห็ดที่ได้รับแสงยูวีจะมีปริมาณวิตามินดีที่สูงขึ้นซึ่งให้ประโยชน์ต่อกระดูกและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เห็ดสีน้ำตาลเป็นแหล่งของสังกะสีซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการเจริญเติบโตของทารกและเด็ก
  2. สารอาหารต่าง ๆ ในเห็ดมีประโยชน์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย และต้านมะเร็ง ช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ และปรับสมดุลของน้ำในร่างกาย ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านมะเร็ง จากงานวิจัยของ Kim และคณะปี 2009 ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ต้านมะเร็งของเห็ดนางรมสายพันธุ์ต่าง ๆ พบว่า สารสกัดเห็ดนางรมโดยเฉพาะ strain สีเหลืองมีปริมาณสารฟีโนลิกรวมและให้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ขณะที่เห็ดนางรม strain สีดำและสีชมพูแสดงฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้สูงที่สุด

กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย พบว่าเห็ดมีสารสำคัญคือเบต้ากลูแคนส์ เป็นสารเชิงซ้อน มีฤทธิ์ในการปรับเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย โดยไปกระตุ้นการทำงานของแมคโคฟาสในระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม และต้านการติดเชื้อ งานวิจัยของ Jeong และคณะปี 2012 พบว่าเมื่อทำการให้สารสกัดเบต้ากลูแคนส์จากเห็ดนางรมแก่เด็กก่อนวัยเรียนเป็นเวลาติดต่อกัน 3 เดือน สามารถช่วยลดความถี่ของการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต เห็ดมีแร่ธาตุโพแทสเซียมซึ่งมีผลต่อการปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกาย การรับประทานเห็ดในปริมาณที่เหมาะสมจึงสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด  Bobek และคณะปี 1999 พบว่าเห็ดนางรมมีฤทธิ์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้

ฤทธิ์ในการลดไข้และต้านการอักเสบ Suseem และคณะปี 2011 พบว่า สารสกัดของเห็ดนางฟ้าภูฐานให้ฤทธิ์ในการลดไข้และต้านการอักเสบได้

เป็นอาหารที่ใช้ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากเห็ดมีแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและโปรตีน สามารถรับประทานแทนอาหารพวกเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีไขมันสูง เมื่อทำการปรับเปลี่ยนการบริโภคร้อยละ 20 ของอาหารด้วยเห็ดแทนเนื้อสัตว์ ส่งผลทำให้ค่า BMI (ค่า BMI คือค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) และส่วนสูง (เซนติเมตร) ซึ่งสามารถระบุได้ว่า ตอนนี้รูปร่างของคนคนนั้นอยู่ในระดับใด ตั้งแต่อ้วนมากไปจนถึงผอมเกินไป) และขนาดรอบเอวของอาสาสมัครลดลง  

จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า เห็ดเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับ ประทานเป็นประจำสามารถช่วยส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง เสริมภูมิต้านทานต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ นอกจากเรื่องคุณประโยชน์ต่างๆ แล้ว เห็ดยังมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับการนำมาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร เป็นอาหารที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพง มีหลากหลายให้เลือกนำมารับประทาน

เห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่มนุษย์เรารู้จักและนำมาบริโภคเป็นอาหารและยามานานหลายร้อยปีด้วย ที่มีรสชาติที่หลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในการนำไปประกอบเป็นอาหาร อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงเหมาะที่จะเป็นเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ

ประโยชน์ของเห็ด มีอะไรบ้าง

1. มีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง

ในปี 2010 มีการศึกษาและถูกตีพิมพ์ในวารสาร Experimental Biology and Medicine ได้ทดสอบเห็ด 5 ชนิด ได้แก่ เห็ดไมตาเกะ เห็ดคริมมินิเห็ดกระดุมสีน้ำตาล เห็ดนางรม และเห็ดกระดุมสีขาว พบว่าสามารถยับยั้งการเติบโตและการสืบพันธุ์ของเซลล์มะเร็งเต้านมได้

นอกจากนี้เห็ดหอมหรือเห็ดซิตาเกะ ยังมีสารเลนทิแนน (Lentinan) ซึ่งเป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดในระหว่างที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด แม้ว่าจะไม่ได้ฆ่าเซลล์มะเร็งโดยตรง แต่จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจช่วยในการชะลอการเติบโตของเนื้องอกได้และยังฆ่าไวรัสและจุลินทรีย์โดยตรงในการศึกษาในห้องปฏิบัติการ

นักวิจัยในญี่ปุ่นได้ทำการศึกษาผู้ชายมากกว่า 36,000 คน พบว่าคนที่กินเห็ดเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง ส่วนคนที่กินเห็ด 3 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าผู้ที่กินเห็ดน้อยกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ต่อสัปดาห์

2. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

สารเลนทิแนน (Lentinan) ที่พบได้ในเห็ดหอม เป็นสารที่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพได้นอกจากนี้ยังมีสารเบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) ที่พบได้ในเห็ดหอมและเห็ดทั่วไปหลายชนิด เป็นสารที่สามารถฟื้นฟูการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างสมดุล ไม่มากเกินหรือน้อยเกินไปอีกด้วย

3. เห็ดช่วยลดไขมันในเลือด

เห็ดโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีคอเลสเตอรอล แต่มีไฟเบอร์ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ในปี 2012 ได้มีการศึกษาและรายงานผลในวารสารนานาชาติ Medicinal Mushrooms ว่าเห็ดนางรมสีชมพูลดปริมาณไขมันในเลือดของหนูทดลองที่มีระดับไขมันในเลือดสูงได้ ส่วนเห็ดหอมมีส่วนประกอบที่ช่วยการทำงานของตับ แถมยังขับคอเลสเตอรอลจากเส้นเลือด ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดและรักษาระดับความดันโลหิตให้ปกติ รวมทั้งกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตให้ทำงานดีขึ้นอีกด้วย

4. เห็ดเป็นแหล่งอาหารที่มีวิตามิน B และวิตามิน D สูง

เห็ดเป็นอาหารไม่กี่ชนิดที่มีวิตามิน D มีรายงานว่าเห็ดกระดุมและเห็ดคริมมินิ มีปริมาณวิตามิน D สูง ซึ่งเห็ดคริมมินินั้นยังมีวิตามิน B12 ซึ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ เพราะมีวิตามินดังกล่าวอยู่ในเนื้อสัตว์ด้วย และวิตามิน B นับว่ามีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยในการนำอาหารเข้าไปให้พลังงานกับร่างกาย ส่วนวิตามิน D ก็ช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมแคลเซียมที่ทำให้กระดูกแข็งแรง

5. เห็ดช่วยต่อต้านการอักเสบ

เห็ดช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ช่วยลดอาการอักเสบของร่างกาย โดยเห็ดหลินจือเป็นเห็ดที่คนเอเชียนำมาใช้ทำยากันมานานนับพันปีแล้ว เพราะช่วยลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเพิ่มเติมพบว่ามีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ต่อสู้กับเชื้อโรค ช่วยลดอาการภูมิแพ้ และชะลอการเติบโตของเนื้อร้ายอีกด้วย

ยังมีผลการวิจัยระบุว่า นอกจากเห็ดจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว เห็ดบางชนิดยังมีคุณค่าทางการแพทย์ ช่วยเรื่องเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย โดย “อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช” นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพสหรัฐอเมริกา รวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนบำบัด  ในงานประชุมวิชาการทางโภชนาการ หัวข้อ “บทบาทอาหารและโภชนาการในกลุ่มวัยรุ่น” ณ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย สรุปเป็นแนวทางให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า นอกจากเห็ดจะเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนพืชแล้ว เห็ดยังให้พลังงานต่ำ ปลอดไขมันและคอเลสเทอรอล แถมยังมีใยอาหารสูง อุดมด้วยแร่ธาตุโปแตสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม ตลอดจนวิตามินบี 2 ไนอะซิน ดี 2 แล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ซีลีเนียมสูง และมีสารเบต้ากลูแคน ที่จับกับโปรตีนเพิ่มฤทธิ์ภูมิคุ้มกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพเกินกว่าอาหาร ที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เกิดเป็น เทรนด์คนรักสุขภาพ สำหรับผู้ที่ใส่ใจรักสุข

เทรนด์คนรักสุขภาพ

เทรนด์คนรักสุขภาพ กับสูตรเด็ด เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง ทอด กรอบ

ภูนภาฟาร์ม เข้าใจ รู้ลึก รู้จริง จึงพัฒนา เห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทอง ให้เป็นอาหารเพื่อคนรักสุขภาพต้องเพิ่มเข้าไปในเมนูอาหารที่กินแต่ละวัน  เนื่องจากเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่กินแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย  

ภูนภาฟาร์ม คัดสรรเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองที่ดีมีคุณภาพ นำมาทอดกรอบผสมสมุนไพร เคี้ยวหนุบหนับคล้ายเนื้อปลาหมึก เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ อร่อยได้ง่าย ๆ

ส่วนผสม

  • น้ำตาล
  • น้ำมะขามเปียก 
  • ซีอิ้วขาว
  • พริก 
  • ใบกรูด 
  • แป้ง
  • เห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทอง
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด 

ขั้นตอนการทำ เห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองทอดกรอบ

  1. ทำความสะอาดเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทอง ฉีกเป็นเส้น แล้วผึ่งลมไว้
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเยอะพอสมควร ไฟปานกลาง รอน้ำมันสำหรับทอดร้อน
  3. นำเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจนเหลืองสุก เมื่อเห็ดเริ่มเหลือง ให้กลับด้าน จนเหลืองสวยทั้งสองด้าน แล้วรีบนำขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  4. นำเห็ดที่พักสะเด็ดน้ำมันแล้ว เข้าเตาอบไล่น้ำมันอีกครั้ง 5 นาที
  5. จากนั้นนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงที่ผสมกันดีแล้ว
เทรนด์คนรักสุขภาพ

ภูนภาฟาร์ม ใส่ใจผู้บริโภคดุจคนในครอบครัว

– ภูนภาฟาร์ม

เมนูเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองทอดกรอบ ได้รับความนิยมมากขึ้นตามเทรนด์ของคนรักสุขภาพ นอกจากจะมีรสชาติอร่อย และปรุงรสได้อย่างลงตัว ทั้งรถดั้งเดิม และรสสมุนไพรแล้ว เห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองทอดกรอบยังนิยมนำมาใช้เป็นอาหารขบเคี้ยวยามว่าง  เนื่องจากมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดี มีความคล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์ เห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยส่งเสริมสุขภาพเกินกว่าอาหาร ที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับเป็นเมนูควบคุมน้ำหนักของหนุ่มสาวรุ่นใหม่

เมนูเห็ดทอดอบกรอบของ ภูนภาฟาร์ม   มี 2  รส คือ

  1. เห็ดนางฟ้า น้ำหนัก 100 กรัม ราคา 75 บาท
  2. เห็ดเข็มทอง น้ำหนัก 100 กรัม ราคา 75 บาท

ไปที่ร้านค้า -> ภูนภาฟาร์ม


สำหรับท่านที่สนใจ เมนูเห็ดทอดอบกรอบของ ภูนภาฟาร์ม ติดต่อได้ที่

ภูนภาฟาร์ม 
21/434 หมู่ 5 บ้านเอื้ออาทรโนนสมอ  ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
Tel. : 093 825 9463, 093 426 6256
ID Line : vit4019 
Link Line : https://line.me/ti/p/v6kONY9KAe
Face book : ภูนภาฟาร์ม

KCmart ยังมีสินค้าให้เลือกอีกมาก คลิกที่นี่ ได้เลยค่ะ